รายละเอียดมาตรฐานคุณวุฒิอุดมศึกษา (มคอ.๓)
รายวิชา ๔๐๑ ๓๑๒ พรรคการเมือง กลุ่มผลประโยชน์และการเลือกตั้ง
|
ชื่อสถาบันอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย |
|
วิทยาเขต/คณะ/ภาควิชา วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร คณะสังคมศาสตร์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ |
หมวดที่ ๑ ข้อมูลโดยทั่วไป
|
๑. รหัสและชื่อรายวิชา ๔๐๑ ๓๑๒ พรรคการเมือง กลุ่มผลประโยชน์และการเลือกตั้ง (Political Parties, Interest Groups and Election) |
|
๒. จำนวนหน่วยกิต ๓ หน่วยกิต (๓-๐-๖) |
|
๓. หลักสูตรและประเภทของรายวิชา หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๔ ประเภทหมวดวิชาเฉพาะ วิชาเฉพาะด้านทางรัฐศาสตร์ |
|
๔. อาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชาและอาจารย์ผู้สอน อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๕. ภาคการศึกษา/ชั้นปีที่เรียน ภาคการศึกษาที่ ๒ ชั้นปีที่ ๓ ห้อง ๒ |
|
๖.รายวิชาที่ต้องเรียนมาก่อน (Pre-requisite) (ถ้ามี) ไม่มี |
|
๗.รายวิชาที่ต้องเรียนพร้อมกัน (Co-requisites) (ถ้ามี) ไม่มี |
|
๘. สถานที่เรียน วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย |
|
๙.วันที่จัดทำหรือปรับปรุงรายละเอียดของรายวิชาครั้งล่าสุด ๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ |
หมวดที่ ๒ จุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์
|
๑. จุดมุ่งหมายของรายวิชา เพื่อให้นิสิตมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎี ความเป็นมา และระบบของการเลือกตั้ง พรรคการเมือง กลุ่มอิทธิพล และกลุ่มผลประโยชน์ บทบาทและอิทธิพลของกลุ่มต่างๆ และความสัมพันธ์กับรัฐบาล พฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง และปัญหาการเลือกตั้ง เน้นกรณีของไทยโดยเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ |
|
๒. วัตถุประสงค์ในการพัฒนา/ปรับปรุงรายวิชา ๑. เพื่อพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรให้เป็นไปตามมาตรฐาน สกอ. ๒. เพื่อศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจทฤษฎี แนวคิด และความเป็นมาเกี่ยวกับพรรคการเมืองกลุ่มผลประโยชน์ และระบบการเลือกตั้ง ๓. เพื่อให้สามารถอธิบายบทบาทและอิทธิพลของพรรคการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองที่มีต่อระบบการเมืองการปกครอง ๔. เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาการเลือกตั้งของไทยซึ่งสามารถนำไปเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งในประเทศ อื่น ๆ ได้ |
หมวดที่ ๓ ลักษณะและการดำเนินการ
|
๑. คำอธิบายรายวิชา ศึกษาทฤษฎี ความเป็นมา และระบบของการเลือกตั้ง พรรคการเมือง กลุ่มอิทธิพล และกลุ่มผลประโยชน์ บทบาทและอิทธิพลของกลุ่มต่างๆ และความสัมพันธ์กับรัฐบาล พฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง และปัญหาการเลือกตั้ง เน้นกรณีของไทยโดยเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ |
|||
|
๒. จำนวนชั่วโมงที่ใช้ต่อภาคการศึกษา |
|||
|
บรรยาย |
สอนเสริม |
การฝึกปฏิบัติ/งานภาคสนาม/การฝึกงาน |
การศึกษาด้วยตนเอง |
|
บรรยาย ๔๕ ชั่วโมง ต่อภาคการศึกษา |
สอนเสริมตามความต้องการของนิสิตเฉพาะราย |
ไม่มีการฝึกปฏิบัติงานภาคสนาม |
การศึกษาด้วยตนเอง ๙๐ ชั่วโมงต่อภาคการศึกษา |
|
๓. จำนวนชั่วโมงต่อสัปดาห์ที่อาจารย์ให้คำปรึกษาและแนะนำทางวิชาการแก่นิสิตเป็นรายบุคคล - อาจารย์ประจำรายวิชา ประกาศเวลาให้คำปรึกษาผ่านเวปไซด์คณะ - อาจารย์จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือ รายกลุ่มตามความต้องการ ๑ ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (เฉพาะรายที่ต้องการ) |
|||
หมวดที่ ๔ การพัฒนาการเรียนรู้ของนิสิต
|
๑. คุณธรรม จริยธรรม |
|
๑.๑ คุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา ๑.๑.๑ มีศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม เสียสละ ความซื่อสัตย์สุจริต |
|
๑.๒ วิธีการสอน (๑) บรรยายพร้อมยกตัวอย่างกรณีศึกษาเกี่ยวกับประเด็นทางจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการปกครองและการบริหารอภิปรายกลุ่ม (๒) นิสิตทำแบบฝึกหัดส่ง (๓) นิสิตค้นคว้าหาข้อมูลที่เกี่ยวกับทางด้านปกครองและบริหารในเขตนครหลวง และนำไปเป็นแนวทางในการศึกษาสถานการณ์จริง (๔) นิสิตมีส่วนร่วมในการออกมานำเสนอผลงาน การวิเคราะห์ประเด็นและการคำนวณหาคำตอบของโจทย์ (๕) นิสิตจับกลุ่มกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน โดยให้เพื่อนสอนเพื่อน อธิบายกัน ทำความเข้าใจกัน โดยผู้สอนกำกับดูแลห่าง ๆ |
|
๑.๓ วิธีการประเมินผล - พฤติกรรมการเข้าเรียน และส่งงานที่ได้รับมอบหมายตามขอบเขตที่ให้และตรงเวลา - มีการอ้างอิงเอกสารที่ได้นำมาทำรายงาน อย่างถูกต้องและเหมาะสม - ประเมินผลการวิเคราะห์กรณีศึกษา - ประเมินผลการนำเสนอรายงานที่มอบหมาย |
|
๒. ความรู้ |
|
๒.๑ ความรู้ที่ต้องได้รับ ๒.๑.๑ มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการ ทฤษฎี และเนื้อหา ๒.๑.๒ ใช้ความรู้อธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีเหตุผล |
๒.๒ วิธีการสอน บรรยาย อภิปราย การทำงานกลุ่ม การนำเสนอรายงาน การวิเคราะห์กรณีศึกษา และมอบหมายให้ค้นคว้าหาบทความ ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยนำมาสรุปและนำเสนอ การศึกษาโดยใช้ปัญหา และโครงงาน Problem base learning และ Student Center เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง |
๒.๓ วิธีการประเมินผล - ทดสอบย่อย สอบกลางภาค สอบปลายภาค ด้วยข้อสอบที่เน้นการวัดหลักการและทฤษฎี - นำเสนอสรุปการอ่านจากการค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้อง - วิเคราะห์กรณีศึกษา |
|
๓. ทักษะทางปัญญา |
|
๓.๑ ทักษะทางปัญญาที่ต้องพัฒนา ๓.๑.๑ สามารถสืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ ทำความเข้าใจ นำประยุกต์ใช้ได้ |
|
๓.๒ วิธีการสอน - การมอบหมายให้นิสิตทำโครงงานพิเศษ และนำเสนอผลการศึกษา - อภิปรายกลุ่ม - วิเคราะห์กรณีศึกษาเกี่ยวกับการปกครองกับการปกครองในปัจจุบัน - การสะท้อนแนวคิดจากการประพฤติ
|
|
๓.๓ วิธีการประเมินผล |
|
สอบกลางภาคและปลายภาค โดยเน้นข้อสอบที่มีการวิเคราะห์สถานการณ์ หรือวิเคราะห์แนวคิดในด้านการปกครองและการบริหาร |
|
๔. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ |
|
๔.๑ ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบที่ต้องพัฒนา ๔.๑.๑ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ๔.๑.๓ มีมนุษย์สัมพันธ์ รู้จักจัดการอารมณ์ และยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล |
|
๔.๒ วิธีการสอน - จัดกิจกรรมกลุ่มในการวิเคราะห์กรณีศึกษา - มอบหมายงานรายกลุ่ม และรายบุคคล หรือ อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับรายวิชา - การนำเสนอรายงาน |
๔.๓ วิธีการประเมินผล - ประเมินตนเอง และเพื่อน ด้วยแบบฟอร์มที่กำหนด - รายงานที่นำเสนอ พฤติกรรมการทำงานเป็นทีม - รายงานการศึกษาด้วยตนเอง |
|
๕. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ๕.๑ ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ต้องพัฒนา ๕.๑.๑ มีทักษะในการใช้ภาษาไทย เพื่อการสื่อสารได้อย่างเหมาะสม ๕.๒ วิธีการสอน - มอบหมายงานให้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง จาก website สื่อการสอน e-learning และทำรายงาน โดยเน้นการนำตัวเลข หรือมีสถิติอ้างอิง จากแหล่งที่มาข้อมูลที่น่าเชื่อถือ - นำเสนอโดยใช้รูปแบบและเทคโนโลยีที่เหมาะสม ๕.๓ วิธีการประเมินผล - การจัดทำรายงาน และนำเสนอด้วยสื่อเทคโนโลยี - การมีส่วนร่วมในการอภิปรายและวิธีการอภิปราย |
หมวดที่ ๕ แผนการสอนและการประเมินผล
๑. แผนการสอน
|
สัปดาห์ที่ |
หัวข้อ/รายละเอียด |
จำนวนชั่วโมง |
กิจกรรมการเรียน การสอน สื่อที่ใช้ (ถ้ามี) |
ผู้สอน |
|
๑ |
แนะนำเนื้อหาวิชาและวิธีการศึกษา |
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษา |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
|
บทที่ ๑ แนวคิดและทฤษฎี ความเป็นมาของพรรคการเมือง |
|
Course outline/ Lecture/ Assign |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๒ |
แนะนำเนื้อหาวิชาและวิธีการศึกษา บทที่ ๑ แนวคิดและทฤษฎี ความเป็นมาของพรรคการเมือง |
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษา Course outline/ Lecture/ Assign |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๓ |
บทที่ ๒ ความหมายและการพัฒนาของพรรคการเมือง
|
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษาLecture/ Present/ Conference |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๔ |
บทที่ ๒ บทบาทและหน้าที่ของพรรคการเมือง |
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษาLecture/ Present/ Conference |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๕
|
บทที่ ๔ พรรคการเมืองที่มีต่อระบบการเมือง
|
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษาLecture/ Present/ Conference |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๖
|
บทที่ ๕ โครงการพรรคการเมืองและพฤติกรรมเชิงการเมือง
|
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษาLecture/ Present/ Conference |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๗
|
บทที่ ๖ การเลือกตั้ง ปัญหาการเลือกตั้ง
|
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษาLecture/ Present/ Conference |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๘ |
สรุปและทดสอบสอบกลางภาค |
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษาLecture/ Present/ Conference |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๙
|
บทที่ ๗ แนวคิดและทฤษฎี ความเป็นมาของกลุ่มผลประโยชน์ ลักษณะทั่วไปของกลุ่มผลประโยชน์ การแบ่งแยกประเภทของกลุ่มผลประโยชน์ |
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษาLecture/ Present/ Conference |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๑๐
|
บทที่ ๘ ความสำคัญและความสัมพันธ์ พึ้นฐานการจัดตั้งกลุ่มผลประโยชน์และกลุ่มกดดันในสถาบันทางการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ในประเทศไทย |
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษาLecture/ Present/ Conference |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๑๑
|
บทที่ ๙ กลุ่มผลประโยชน์ในต่างประเทศ เช่นอังกฤษ อเมริกา เป็นต้น
|
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษาLecture/ Present/ Conference |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๑๒
|
บทที่ ๑๐ พรรคการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเชีย และฟิลิปปินส์ |
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษาLecture/ Present/ Conference |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๑๓ |
บทที่ ๑๑ พรรคการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
|
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษาLecture/ Present/ Conference |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๑๔ |
บทที่ ๑๒ เปรียบเทียบกรณีการจัดตั้งกลุ่มผลประโยชน์ของไทยกับต่างประเทศ |
๓ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษาLecture/ Present/ Conference |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๑๕
|
บทที่ ๑๒ เปรียบเทียบกรณีการจัดตั้งกลุ่มผลประโยชน์ของไทยกับต่างประเทศ (ต่อ) สรุป |
๓ |
Conference/ Evaluation/ Improvement/ Development |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๑๖ |
สอบปลายภาค |
๓ |
|
คณะกรรมการ |
๒. แผนการประเมินผลการเรียนรู้
|
ที่ |
ผลการเรียนรู้* |
วิธีการประเมิน |
สัปดาห์ที่ประเมิน |
สัดส่วนของการประเมินผล |
|
๑ |
๒.๑.๑ มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการ ทฤษฎี และเนื้อหา ๒.๑.๒ ใช้ความรู้อธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีเหตุผล |
ทดสอบย่อยครั้งที่ ๑ สอบกลางภาค ทดสอบย่อยครั้งที่ ๒ สอบปลายภาค
|
๔ ๘ ๑๒ ๑๖
|
๑๐% ๒๕% ๑๐% ๒๕%
|
|
๒ |
๑.๑.๑ มีศีลธรรม จริยธรรม คุณธรรม เสียสละ ความซื่อสัตย์สุจริต ๓.๑.๑ สามารถสืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ ทำความเข้าใจ นำประยุกต์ใช้ได้ |
วิเคราะห์กรณีศึกษา ค้นคว้า การนำเสนอรายงาน การทำงานกลุ่มและผลงานการอ่านและสรุปบทความการส่งงานตามที่มอบหมาย |
ตลอดภาคการศึกษา |
๒๐% |
|
๓ |
๕.๑.๑ มีทักษะในการใช้ภาษาไทย เพื่อการสื่อสารได้อย่างเหมาะสม |
การเข้าชั้นเรียน การมีส่วนร่วม อภิปราย เสนอความคิดเห็นในชั้นเรียน |
ตลอดภาคการศึกษา |
๑๐% |
หมวดที่ ๖ ทรัพยากรประกอบการเรียนการสอน
|
๑. เอกสารและตำราหลัก วิทยา นภาศิริกุลกิจ, สุรพล ราชภัณฑารักษ์. พรรคการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๓๙. วิทยา ชินบุตร. วิชาการเลือกตั้ง. มหาวิทยาลัยรามคำแหง. กรุงเทพฯ ๒๕๕๘ |
|
๒. เอกสารและข้อมูลสำคัญ จิรโชค วีระสย, ศ.พิเศษ ดร. พรรคการเมืองและพฤติกรรมเชิงการเมือง. กรุงเทพฯ มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๕๗. |
|
๓. เอกสารและข้อมูลแนะนำ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิวัฒนาการการเมืองไทย. นนทบุรี :มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๓๕. สีดา สอนศรี และคณะ. พรรคการเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. กรุงเทพฯ, ๒๕๔๖. พรชัย เทพปัญญา, รศ. และคณะ. การบริหารนครหลวง. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๓๑. วิรัช วิรัชนิภาวรรณ, การบริหารเมืองหลวงและการบริหารท้องถิ่น. กรุงเทพฯ : เอ. เอส. พริ้นติ้งเฮาส์, ๒๕๔๑. _________. การบริหารเมืองหลวงและการบริหารท้องถิ่นเปรียบเทียบ. กรุงเทพฯ :โอเดียนสโตร์, ๒๕๔๑. ชูศักดิ์ เที่ยงตรง. การบริหารการปกครองท้องถิ่นเปรียบเทียบ. กรุงเทพฯ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๒๐. ติน ปรัชญพฤทธิ์. ศัพท์รัฐประศาสนศาสตร์. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๓๕. ไพบูลย์ ช่างเรียน. สังคมเมืองและการปกครองของไทย. กรุงเทพฯ :ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๔๐. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. การปกครองเปรียบเทียบ. นนทบุรี :มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๓๓. มูลนิธิปริญญาโทนักบริหารรัฐกิจ ธรรมศาสตร์ (มูลนิธิ EPA). การบริหารเมือง. กรุงเทพฯ : คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๓. ศิริวรรณ ตันตระวิวัฒน์. การบริหารงานแบบมีส่วนร่วม : ศึกษาเฉพาะกรณีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย. กรุงเทพฯ : สาขาบริหารรัฐกิจ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๓๐. Anthony H. Bitch. The British System of Government. London: George Newness Ltd., 1961. Charles F. Adrain. State and Local Government. New York: McGraw-Hill Book. Inc., 1980. |
หมวดที่ ๗ การประเมินและปรับปรุงการดำเนินการของรายวิชา
|
๑. กลยุทธ์การประเมินประสิทธิผลของรายวิชาโดยนักศึกษา การประเมินประสิทธิผลในรายวิชานี้ ที่จัดทำโดยนิสิต ได้จัดกิจกรรมในการนำแนวคิดและความเห็นจากนิสิต ได้ดังนี้ - การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน - การสังเกตการณ์จากพฤติกรรมของผู้เรียน - แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา - ขอเสนอแนะผ่านเว็บบอร์ด ที่อาจารย์ผู้สอนได้จัดทำเป็นช่องทางการสื่อสารกับนักศึกษา |
|
๒. กลยุทธ์การประเมินการสอน ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอน ได้มีกลยุทธ์ ดังนี้ - การสังเกตการณ์สอนของผู้ร่วมทีมการสอน - ผลการสอบ - การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้ |
|
๓. การปรับปรุงการสอน หลังจากผลการประเมินการสอนในข้อ 2 จึงมีการปรับปรุงการสอน โดยการจัดกิจกรรมในการระดมสมอง และหาข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับปรุงการสอน ดังนี้ - สัมมนาการจัดการเรียนการสอน - การวิจัยในและนอกชั้นเรียน
|
|
๔. การทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาในรายวิชา ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อ ตามที่คาดหวังจากการเรียนรู้ในวิชา ได้จาก การสอบถามนิสิต หรือการสุ่มตรวจผลงานของนิสิต รวมถึงพิจารณาจากผลการทดสอบย่อย และหลังการออกผลการเรียนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยรวมในวิชาได้ดังนี้ - การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนิสิต โดยอาจารย์อื่น หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ไม่ใช่อาจารย์ประจำหลักสูตร - มีการตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนิสิต โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม |
|
๕. การดำเนินการทบทวนและการวางแผนปรับปรุงประสิทธิผลของรายวิชา จากผลการประเมิน และทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชา ได้มีการวางแผนการปรับปรุงการสอน และ รายละเอียดวิชา เพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น ดังนี้ - ปรับปรุงรายวิชาทุก ๕ ปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ ๔ - เปลี่ยนหรือสลับอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้นักศึกษามีมุมมองในเรื่องการประยุกต์ความรู้นี้กับปัญหาที่มาจากงานวิจัยของอาจารย์หรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ |
รายละเอียดของรายวิชา
ชื่อสถาบันอุดมศึกษา
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วิทยาลัย/คณะ/ภาควิชา
วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร/คณะครุศาสตร์/ภาควิชาหลักสูตรและการสอน
ที่ ๑ ข้อมูลทั่วไป
๑. รหัสและชื่อรายวิชา
๒๐๓ ๓๐๘ ความรู้ทั่วไปทางรัฐศาสตร์
(General Knowledge in Political Sciences)
๒. จำนวนหน่วยกิต
๓ หน่วยกิต (๓-๐-๖)
๓. หลักสูตรและประเภทของรายวิชา
๓.๑ หลักสูตร
หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต
๓.๒ ประเภทวิชา
วิชาบังคับ หมวดวิชาชีพครู
๔. อาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชา
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป
๕. ภาคการศึกษา/ชั้นปีที่เรียน
ภาคการศึกษาที่ ๒ / ชั้นปีที่ ๓
๖. รายวิชาที่ต้องเรียนมาก่อน (ถ้ามี)
ไม่มี
๗. วิชาที่ต้องเรียนพร้อมกัน (co-requisites) (ถ้ามี)
ไม่มี
๘. สถานที่เรียน
วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๙. วันที่จัดทำรายละเอียดของรายวิชา หรือวันที่มีการปรับปรุงครั้งล่าสุด
หมวดที่ ๒ จุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์
๑. จุดมุ่งหมายของรายวิชา
๑) เพื่อให้นิสิตมีความรู้ความเข้าใจความหมาย ขอบข่ายและปรัชญาของรัฐศาสตร์
๒) เพื่อให้นิสิตสามารถใช้ความรู้ทางด้านรัฐศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ
๓) เพื่อให้นิสิตสามารถนำความรู้ทางด้านรัฐศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน
๒. วัตถุประสงค์ในการพัฒนา/ปรับปรุงรายวิชา
เพื่อให้นิสิตมีความรู้พื้นฐาน เป็นการเตรียมความพร้อมด้านปัญญาในการนำความรู้ ความเข้าใจ ในด้านรัฐศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานอื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาสังคม เพื่อเป็นพื้นฐานการเรียนในวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ควรมีการเปลี่ยนแปลงตัวอย่างอ้างอิง ให้สอดคล้องกับแนวโน้มด้านการเมือง การปกครองและการบริหารทั่วไปที่ได้มีความก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
หมวดที่ ๓ ลักษณะและการดำเนินการ
๑.คำอธิบายรายวิชา
ความหมาย ขอบข่ายและปรัชญาของรัฐศาสตร์ แนวคิดทฤษฎีความขัดแย้งและอุดมการณ์ทางการเมือง ระบบและลัทธิทางการเมือง อำนาจทางการเมือง รูปแบบการปกครอง การเลือกตั้ง สิทธิเสรีภาพและการมีส่วนร่วมของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
๒.จำนวนชั่วโมงที่ใช้ต่อภาคการศึกษา
|
บรรยาย |
สอนเสริม |
การฝึกปฏิบัติ/งานภาคสนาม/การฝึกงาน |
การศึกษาด้วยตนเอง |
|
บรรยาย ๔๕ ชั่วโมงต่อภาคการศึกษา |
สอนเสริมตามความต้องการของนิสิตเฉพาะราย |
ไม่มีการฝึกปฏิบัติงานภาคสนาม |
การศึกษาด้วยตนเอง ๖ ชั่วโมงต่อสัปดาห์ |
|
๓.จำนวนชั่วโมงต่อสัปดาห์ที่อาจารย์ให้คำปรึกษาและแนะนำทางวิชาการแก่นิสิตเป็นรายบุคคล - อาจารย์ประจำรายวิชา ประกาศเวลาให้คำปรึกษาผ่านเว็บไซต์คณะ - อาจารย์จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือ รายกลุ่มตามความต้องการ ๑ ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (เฉพาะรายที่ต้องการ) |
|||
หมวดที่ ๔ การพัฒนาการเรียนรู้ของนิสิต
๑.คุณธรรม จริยธรรม
๑.๑ คุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา
พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรมเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างราบรื่น และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยผู้สอนต้องพยายามสอดแทรกเรื่องที่เกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรม เพื่อให้นิสิตสามารถพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมไปพร้อมกับการศึกษาความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์ โดยมีคุณธรรมจริยธรรมตามคุณสมบัติหลักสูตร ดังนี้
๑) ตระหนักในคุณค่าและคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต
๒) มีวินัย ตรงต่อเวลา และความรับผิดชอบต่อตนเอง วิชาชีพและสังคม
๓) มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม สามารถทำงานเป็นทีมและสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งและลำดับความสำคัญ
๔) เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
๑.๒ วิธีการสอน
กำหนดให้มีวัฒนธรรมองค์กร เพื่อเป็นการปลูกฝังให้นิสิตมีระเบียบวินัย โดยเน้นการเข้าชั้นเรียนให้ตรงเวลาตลอดจนการแต่งกายที่เป็นไปตามระเบียบของมหาวิทยาลัย นิสิตต้องมีความรับผิดชอบโดยในการทำงานกลุ่มนั้นต้องฝึกให้รู้หน้าที่ของการเป็นผู้นำกลุ่มและการเป็นสมาชิกกลุ่ม มีความซื่อสัตย์โดยต้องไม่กระทำการทุจริตในการสอบหรือลอกการบ้านของผู้อื่น เป็นต้น นอกจากนี้อาจารย์ผู้สอนทุกคนต้องสอดแทรกเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในการสอนทุกรายวิชา รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ยกย่องบุคคลที่ ทำดี เสียสละ และทำประโยชน์แก่ส่วนรวม
๑.๓ วิธีการประเมินผล
๑) ประเมินจากการตรงเวลาของนิสิตในการเข้าชั้นเรียน การส่งงานตามกำหนดระยะเวลาที่มอบหมาย และการร่วมกิจกรรม
๒) ประเมินจากการมีวินัยและพร้อมเพรียงของนิสิตในการเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตร
๓) ประเมินจากปริมาณการกระทำทุจริตในการสอบ
๔) ประเมินจากความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
๒.ความรู้
๒.๑ ความรู้ที่ต้องได้รับ
๑) มีองค์ความรู้ในสาขาวิชาชีพครูอย่างกว้างขวางและเป็นระบบสามารถวิเคราะห์ปัญหา
๒)ตระหนักรู้หลักการและทฤษฏีในองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพครูและความก้าวหน้าของวิชาชีพครู
๓)มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการวิจัยและใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาวิทยาการใหม่ๆทางด้านการเรียนการสอนเพื่อแก้ปัญหาและการต่อยอดองค์ความรู้
๒.๒ วิธีการสอน
บรรยาย อภิปราย การทำงานกลุ่ม การนำเสนอรายงาน การวิเคราะห์กรณีศึกษา และมอบหมายให้ค้นคว้าหาบทความ ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยนำมาสรุปและนำเสนอ การศึกษาโดยใช้ปัญหา และโครงงาน Problem base learning และ Student Center เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
๒.๓ วิธีการประเมินผล
ประเมินจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการปฏิบัติของนิสิตในด้านต่างๆ คือ
๑) การทดสอบย่อย
๒) การสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน
๓) ประเมินจากงานมอบหมาย
๔) ประเมินจากโครงการที่นำเสนอ
๕) ประเมินจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
๓.ทักษะทางปัญญา
๓.๑ ทักษะทางปัญญาที่ต้องพัฒนา
๑) มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและกระบวนการคิดต่างๆ
๒) สามารถสืบค้น ตีความ และประเมินสารสนเทศเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์
๓.๒ วิธีการสอน
- การมอบหมายให้นิสิตทำโครงงานพิเศษ และนำเสนอผลการศึกษา
- อภิปรายกลุ่ม
- วิเคราะห์กรณีศึกษาทางด้านรัฐศาสตร์
- การสะท้อนแนวคิดจากพฤติกรรม
๓.๓ วิธีการประเมินผล
๑) การนำเสนอผลงานและประเมินผลการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น การวัดตามสภาพจริง การใช้แบบวัด แบบทดสอบ ฯลฯ
๒) การมีส่วนร่วมในการเรียนรู้และการฝึกปฏิบัติของนิสิต
๓) การนำเสนอรายงานผลการศึกษากรณีศึกษา สอบกลางภาค สอบปลายภาคด้วยข้อสอบ
๔.ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ
๔.๑ ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบที่ต้องพัฒนา
๑) มีความเป็นผู้นำและผู้ติดตามในการทำงานเป็นทีมรวมทั้งมีส่วนช่วยและเอื้อต่อการแก้ปัญหาในกลุ่มได้อย่างสร้างสรรค์ (ข้อ๒)
๒) มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างเหมาะสมบนพื้นฐานของตนเองและของกลุ่ม (ข้อ๓)
๓) รับผิดชอบในการเรียนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนาตนเองและวิชาชีพครู (ข้อ๔)
๔.๒ วิธีการสอน
๑) ฝึกปฏิบัติให้ทำงานกับผู้อื่น
๒) มอบหมายงานที่เกี่ยวข้องและให้รายงานความก้าวหน้าเป็นระยะๆ
๓) ให้เรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรที่เกี่ยวข้อง
๔) ฝึกการสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงานในองค์กรและกับบุคคลทั่วไป
๕) ฝึกการมีภาวะผู้นำ
๔.๓ วิธีการประเมินผล
๑) ประเมินจากพฤติกรรมและการแสดงออกของนิสิตขณะเรียนและปฏิบัติงานกลุ่ม
๒) สังเกตจากพฤติกรรมที่แสดงออกในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
๓) การเสนอผลงานจากการได้ฝึกปฏิบัติตามสภาพจริง
๕.ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
๕.๑ ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ต้องพัฒนา
๑) มีทักษะในการสืบค้นข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ข้อ ๒)
๕.๒ วิธีการสอน
๑) จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่บูรณาการกับรายวิชาต่าง ๆ
๒) ให้นิสิตวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ทั้งที่จำลอง และสถานการณ์เสมือนจริง
๓) ใช้คอมพิวเตอร์และรูปแบบการจัดการเรียนการสอนออนไลน์
๕.๓ วิธีการประเมินผล
๑) ประเมินจากเทคนิคการนำเสนอโดยใช้ทฤษฎี การเลือกใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีสารสนเทศหรือคณิตศาสตร์และสถิติที่เกี่ยวข้อง
๒) ประเมินจากความสามารถในการอธิบายถึงเหตุผล
๓) ผลรายงานจากกรณีศึกษาต่าง ๆที่มีการนำเสนอต่อชั้นเรียน
๔) ประเมินจากการเข้าเรียนจากสื่อการเรียนการสอนออนไลน์
๖. ทักษะการจัดการเรียนรู้
๖.๑ ผลการเรียนรู้ด้านทักษะการจัดการเรียนรู้
วิชาชีพครูเป็นวิชาที่ต้องเกี่ยวข้องกับการจัดประสบการณ์ต่าง ๆ ให้บุคคลเกิดการเรียนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของผู้ประกอบวิชาชีพครูนั้นต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ดังนั้นนิสิตวิชาชีพครูสาขาวิชาสังคมศึกษาต้องมีความสามารถดังต่อไปนี้
๑) มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การจัดการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล การวิจัยในชั้นเรียนการบริหารจัดการชั้นเรียน การบันทึกและการรายงานผลการเรียนรู้
๒) ตระหนักถึงความสำคัญของหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การจัดการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล การวิจัยในชั้นเรียน การบริหารจัดการชั้นเรียนการบันทึกและการรายงานผลการเรียนรู้(๔)
๖.๒ วิธีการสอน
อาจารย์ผู้สอนควรใช้แนวคิดในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญโดยยึดกระบวนการดังนี้
๑) การเรียนรู้โดยใช้หลักไตรสิกขา (Trisikkha Learning)
๒) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning)
๓) การเรียนรู้โดยผ่านประสบการณ์ตรงหรือโครงงาน (Project-based Learning)
๔) การเรียนรู้จากตัวแบบ (Role Model)
๕) การเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน (Research-based Learning)
๖) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Action-based Learning)
๗) การเรียนรู้ตามสภาพจริง (Authentic Learning)
๖.๓ วิธีการประเมินผล
การวัดผลประเมินผลต้องใช้วิธีการที่หลากหลาย และประเมินผลให้ได้ตรงกับสภาพความเป็นจริง เช่น การทดสอบ การสังเกต การสัมภาษณ์ การตรวจผลงาน / โครงงาน / ชิ้นงาน / แฟ้มสะสมงาน และบันทึกการเรียนรู้ (Learning Log)
หมวดที่ ๕ แผนการสอนและการประเมินผล
๑. แผนการสอน
|
สัปดาห์ที่ |
หัวข้อ/รายละเอียด |
จำนวนชั่วโมง |
กิจกรรมการเรียน การสอน สื่อที่ใช้ (ถ้ามี) |
ผู้สอน |
|
๑-๒ |
แนะนำเนื้อหาวิชาและวิธีการศึกษา บทที่ ๑ ความหมาย ขอบข่ายและปรัชญาของรัฐศาสตร์ ๑. ความหมายของรัฐศาสตร์ ๒. ขอบเขตของรัฐศาสตร์ ๓. ประวัติความเป็นมาของวิชารัฐศาสตร์ ๔. วิธีการศึกษารัฐศาสตร์ ๕. ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐศาสตร์กับสาขาวิชาอื่นๆ |
๖ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ มอบหมายงาน ใบงาน Present |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๓-๔ |
บทที่ ๒ แนวคิดทฤษฎีความขัดแย้งและอุดมการณ์ทางการเมือง ๑. ทฤษฎีคัดค้านอำนาจอธิปไตย ๓. วิวัฒนาการของรัฐ ๔. รูปแบบการปกครอง ๕. บทบาทหน้าที่ของอุดมการณ์ทางการเมือง ๖. อุดมการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ ๗. อุดมการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ๘. ประโยชน์ของอุดมการณ์ทางการเมือง |
๖ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ มอบหมายงานประจำบท Present |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๕-๖ |
บทที่ ๓ ระบบและลัทธิทางการเมือง อำนาจทางการเมือง ๑.ระบบทางการเมืองและลัทธิทางการเมือง ๒.อำนาจทางการเมือง ๓. รูปแบบของรัฐบาล ๔. องค์ประกอบของรัฐ ๕. บทบาทและหน้าที่ของรัฐ ๖. ความแตกต่างระหว่าง รัฐ ๗. พรรคการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ |
๖ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษา Present |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๗-๘-๙ |
บทที่ ๔ รูปแบบการปกครอง ๑. รัฐธรรมนูญ ๒. ความหมายของกฎหมาย ๓. ที่มาของกฎหมาย ๔. ลักษณะของกฎหมาย ๕. ประเภทของกฎหมาย ๖. บทบาทของกฎหมายในสังคม ๗. กฎหมายกับศีลธรรม ๘. ประโยชน์ในการศึกษากฎหมาย ๙. สถาบันพระมหากษัตริย์ ๑๐. สถาบันนิติบัญญัติ ๑๑. สถาบันบริหาร ๑๒. สถาบันตุลาการ |
๙ |
บรรยาย ยกตัวอย่าง ประกอบ อภิปราย กลุ่มจากกรณีศึกษา Present |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๑๐-๑๑ |
บทที่ ๕ การเลือกตั้ง สิทธิเสรีภาพ ๑.โครงสร้างของสถาบันทางการเมือง ๒. แนวคิดเกี่ยวกับที่มาของอำนาจอธิปไตย ๓. ลักษณะของอำนาจอธิปไตย ๔. ประเภทของอำนาจอธิปไตย ๕. การแสดงซึ่งอำนาจอธิปไตยของปวงชน ๖. ขอบเขตของอำนาจอธิปไตย |
๖ |
บรรยาย ยกตัวอย่าง ประกอบ อภิปราย กลุ่มจากกรณีศึกษา Present |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๑๒-๑๓ |
บทที่ ๖ การมีส่วนร่วมของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข |
๖ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษา Present |
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๑๔-๑๕ |
บทที่ ๗ ประชาชนกับการเมืองระดับท้องถิ่น ๑. ความหมายของการปกครองส่วนท้องถิ่น ๒. ความสำคัญของการปกครองส่วนท้องถิ่น ๓. วัตถุประสงค์ของการปกครองส่วนท้องถิ่น ๔. องค์ประกอบของการปกครองส่วนท้องถิ่น ๕. แนวคิดและทฤษฎีของการปกครองส่วนท้องถิ่น ๖. รูปแบบของการปกครองส่วนท้องถิ่น |
๖ |
บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษา Present
|
อาจารย์ชัยวิวัฒน ลาไป |
|
๑๖ |
สอบปลายภาค |
๓ |
สอบ |
คณะกรรมการ |
๒. แผนการประเมินผลการเรียนรู้
|
กิจกรรมที่ |
ผลการเรียนรู้ |
วิธีการประเมิน |
สัปดาห์ที่ประเมิน |
สัดส่วนของการประเมินผล |
|
๑ |
๑.๑ ตระหนักในคุณค่าและคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต |
- พฤติกรรมการเข้าเรียน - ส่งงานที่ได้รับมอบหมายตามขอบเขตที่ให้และตรงเวลา |
ตลอดภาคการศึกษา ๕ |
๑๐% ๑๐% |
|
๒ |
๔.๑ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม |
- รายงานกลุ่ม |
๗-๑๕ |
๑๐% |
|
๓ |
๒.๑ มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและทฤษฎีที่สำคัญในเนื้อหาสาขาวิชารัฐศาสตร์ |
- สอบกลางภาค
|
๒-๘ |
๑๐% |
|
๔ |
๕.๑ มีทักษะในการใช้ภาษาไทย เพื่อการสื่อสาร |
- การอภิปราย |
๑๓ |
๒๐% |
|
๕ |
๓.๑ คิดอย่างมีวิจารณญาณและอย่างเป็นระบบ |
- สอบปลายภาค |
๑๖ |
๔๐% |
หมวดที่ ๖ ทรัพยากรประกอบการเรียนการสอน
|
๑.เอกสารและตำราหลัก ชัยวิวัฒน ลาไป. เอกสารประกอบการสอน ความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์. กรุงเทพฯ: ๒๕๕๘. |
|
๒.เอกสารและข้อมูลสำคัญ พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ, ผศ. ความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลง กรณราชวิทยาลัย. ๒๕๕๖. |
|
๓.เอกสารและข้อมูลแนะนำ จักษ์ พันธ์ชูเพชร. ดร. รัฐศาสตร์. ปทุมธานี: มายด์ พับลิซซิ่ง, ๒๕๔๘. จิรโชค วีระสัย, สุรพล ราชภัณฑารักษ์ และสุรพันธ์ ทับสุวรรณ. รัฐศาสตร์ทั่วไป. พิมพ์ครั้งที่ ๑๓ กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๔๖. ฤทธิชัย แกมนาค. ดร. รัฐศาสตร์ตามแนวพุทธศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการ วัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๓๙. สิทธิพันธ์ พุทธหุน. รศ. แนวการศึกษารัฐศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๔๓. สุพจน์ บุญวิเศษ. หลักรัฐศาสตร์. กรุงเทพฯ : เอ็ม.ที.เพรส, ๒๕๔๙. อานนท์ อาภาภิรม. รัฐศาสตร์เบื้องต้น. กรุงเทพมหานคร: โอเดียนสโตร์, ๒๕๒๘. |
หมวดที่ ๗ การประเมินและปรับปรุงการดำเนินการของรายวิชา
|
๑.กลยุทธ์การประเมินประสิทธิผลของรายวิชาโดยนิสิต การประเมินประสิทธิผลในรายวิชานี้ ที่จัดทำโดยนิสิต ได้จัดกิจกรรมในการนำแนวคิดและความเห็นจากนิสิตได้ดังนี้ - การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้สอน - การสังเกตการณ์จากพฤติกรรมของผู้สอน - แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา - ขอเสนอแนะผ่านเว็บบอร์ด ที่อาจารย์ผู้สอนได้จัดทำเป็นช่องทางการสื่อสารกับนิสิต |
|
๒.กลยุทธ์การประเมินการสอน ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอน ได้มีกลยุทธ์ ดังนี้ - การสังเกตการณ์สอนของผู้ร่วมทีมการสอน - ผลการสอบ - การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้ |
|
๓.การปรับปรุงการสอน หลังจากผลการประเมินการสอนในข้อ ๒ จึงมีการปรับปรุงการสอน โดยการจัดกิจกรรมในการระดมสมอง และหาข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับปรุงการสอน ดังนี้ - สัมมนาการจัดการเรียนการสอน - การวิจัยในและนอกชั้นเรียน |
|
๔.การทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ของนิสิตในรายวิชา ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อ ตามที่คาดหวังจากการเรียนรู้ในวิชา ได้จาก การสอบถามนิสิต หรือการสุ่มตรวจผลงานของนิสิต รวมถึงพิจารณาจากผลการทดสอบย่อย และหลังการออกผลการเรียนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยรวมในวิชาได้ดังนี้ - การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนิสิตโดยอาจารย์อื่น หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ไม่ใช่อาจารย์ประจำหลักสูตร - มีการตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนิสิต โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม |
รายละเอียดของรายวิชา
ชื่อสถาบันอุดมศึกษา
วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วิทยาเขต/คณะ/ภาควิชา
คณะครุศาสตร์/ภาควิชาหลักสูตรและการสอน
หมวดที่ ๑ ข้อมูลทั่วไป
๑. รหัสและชื่อรายวิชา
๒๐๓ ๔๓๔ การปกครองส่วนท้องถิ่น
(Local Government)
๒. จำนวนหน่วยกิต
๒ หน่วยกิต (๒-๐-๔)
๓. หลักสูตรและประเภทของรายวิชา
๓.๑ หลักสูตร
หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต
๓.๒ ประเภทวิชา
วิชาบังคับ สาขาวิชาสังคมศึกษา
พระราชปริยัติสุนทร/ดร.ธนพร กล้าจริง
๕. ภาคการศึกษา/ชั้นปีที่เรียน
ภาคการศึกษาที่ ๒ / ชั้นปีที่ ๔
๖. รายวิชาที่ต้องเรียนมาก่อน (ถ้ามี)
ไม่มี
๗. วิชาที่ต้องเรียนพร้อมกัน (co-requisites) (ถ้ามี)
ไม่มี
๘. สถานที่เรียน
วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๙. วันที่จัดทำรายละเอียดของรายวิชา หรือวันที่มีการปรับปรุงครั้งล่าสุด
หมวดที่ ๒ จุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์
๑. จุดมุ่งหมายของรายวิชา
๑.๑ เพื่อให้นิสิตเข้าใจพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของไทย
๑.๒ เพื่อให้นิสิตเข้าใจประวัติศาสตร์ระหว่างภูมิภาคและประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น
๑.๓ เพื่อให้นิสิตเข้าใจเหตุการณ์ปัจจุบันและปัญหาที่เกิดขึ้นโดยอาศัยข้อคิดทางประวัติศาสตร์
๑.๔ เพื่อให้นิสิตนำไปเป็นพื้นฐานสำหรับการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๒. วัตถุประสงค์ในการพัฒนา/ปรับปรุงรายวิชา
เพื่อให้นิสิตรู้จักคุณค่าและความดีงามอันเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ที่บรรพบุรุษสร้างไว้เพื่ออนุชนโดยผ่านการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และสามารถนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนา ปรับปรุง อนุรักษ์
สิ่งดีงามทางประวัติศาสตร์ได้
หมวดที่ ๓ ส่วนประกอบของรายวิชา
๑. คำอธิบายรายวิชา
ความหมาย ความสำคัญของการปกครองท้องถิ่นการกระจายอำนาจ การปกครอง โครงสร้างและรูปแบบของการปกครองส่วนท้องถิ่น และรัฐบาล ระบบการบริหารของหน่วยงาน การปกครองส่วนท้องถิ่นในด้านต่างๆ การถ่ายโอนการศึกษากับการปกครองส่วนท้องถิ่น ปัญหาและอุปสรรคในการปกครองส่วนท้องถิ่น
๒. จำนวนชั่วโมงที่ใช้ต่อภาคการศึกษา
|
บรรยาย |
สอนเสริม |
การฝึกปฏิบัติ/งานภาคสนาม/การฝึกงาน |
การศึกษาด้วยตนเอง |
|
๓๐ ชั่วโมง/ภาคการศึกษา |
- |
- |
๖๐ ชั่วโมง/ภาคการศึกษา |
๓. จำนวนชั่วโมงต่อสัปดาห์ที่อาจารย์ให้คำปรึกษาและแนะนำทางวิชาการแก่นิสิตเป็นรายบุคคล
ในเวลาเรียน ๑ ชั่วโมง/สัปดาห์ เป็นรายบุคคล หรือ รายกลุ่มตามความต้องการ (เฉพาะนิสิตที่ต้องการ)
หมวดที่ ๔ การพัฒนาผลการเรียนรู้ของนิสิต
๑. คุณธรรม จริยธรรม
๑.๑ คุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา
๑) ตระหนักในคุณค่าและคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต
๒) มีวินัย ตรงต่อเวลา และความรับผิดชอบต่อตนเอง วิชาชีพและสังคม
๓) มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม สามารถทำงานเป็นทีมและสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์
๔) เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
๑.๒ วิธีการสอน
กำหนดให้มีวัฒนธรรมองค์กร เพื่อเป็นการปลูกฝังให้นิสิตมีระเบียบวินัย โดยเน้นการเข้าชั้นเรียนให้ตรงเวลาตลอดจนการแต่งกายที่เป็นไปตามระเบียบของมหาวิทยาลัย นิสิตต้องมีความรับผิดชอบโดยในการทำงานกลุ่มนั้นต้องฝึกให้รู้หน้าที่ของการเป็นผู้นำกลุ่มและการเป็นสมาชิกกลุ่ม มีความซื่อสัตย์โดยต้องไม่กระทำการทุจริตในการสอบหรือลอกการบ้านของผู้อื่น เป็นต้น นอกจากนี้อาจารย์ผู้สอนทุกคนต้องสอดแทรกเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในการสอนทุกรายวิชา รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ยกย่องบุคคลที่ ทำดี เสียสละ และทำประโยชน์แก่ส่วนรวม
๑.๓ วิธีการประเมิน
๑) ประเมินจากการตรงเวลาของนิสิตในการเข้าชั้นเรียน การส่งงานตามกำหนดระยะเวลาที่มอบหมาย และการร่วมกิจกรรม
๒) ประเมินจากการมีวินัยและพร้อมเพรียงของนิสิตในการเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตร ๓) ประเมินจากปริมาณการกระทำทุจริตในการสอบ
๔) ประเมินจากความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
๒. ความรู้
๒.๑ ความรู้ที่จะได้รับ
๑) มีองค์ความรู้ในสาขาวิชาชีพครูอย่างกว้างขวางและเป็นระบบสามารถวิเคราะห์ปัญหา
๒) มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการวิจัย และใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาวิทยาการใหม่ๆทางด้านการเรียนการสอนเพื่อแก้ปัญหาและการต่อยอดองค์ความรู้(ข้อ ๓)
๒.๒ วิธีการสอน
ใช้วิธีการเรียนการสอนที่หลากหลายรูปแบบทั้งการบรรยายหลักการทางทฤษฎี ฝึกปฏิบัติ การศึกษาค้นคว้า การวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน การศึกษาดูงาน การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร ทั้งนี้ให้เป็นไปตามลักษณะของรายวิชาตลอดจนเนื้อหาสาระของรายวิชานั้นๆ นอกจากนี้เชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงมาเป็นวิทยากรพิเศษเฉพาะเรื่อง และการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูโดยปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาเป็นระยะเวลา ๑ ปี
๒.๓ วิธีการประเมิน
ประเมินจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการปฏิบัติของนิสิตในด้านต่างๆ คือ
๑) การทดสอบย่อย
๒) การสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน
๓) ประเมินจากงานมอบหมาย
๔) ประเมินจากโครงการที่นำเสนอ
๕) ประเมินจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
๓. ทักษะทางปัญญา
๓.๑ ทักษะทางปัญญาที่ต้องพัฒนา
๑) สามารถวิเคราะห์และใช้วิจารญาณในการตัดสินเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนและการพัมนาผู้เรียนและสร้างสรรค์องค์ความรู้หรือนวัตกรรมไปใช้ในการพัฒนาตนเอง การจัดการเรียนการสอนและผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ (ข้อ๓)
๓.๒ วิธีการสอน
๑) การฝึกประสบการณ์วิชาชีพระหว่างเรียนและการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา
๒) การอภิปรายกลุ่ม
๓) การทำโครงงาน การศึกษารายกรณี สอบกลางภาค สอบปลายภาค
๓.๓ วิธีการประเมิน
๑) การนำเสนอผลงานและประเมินผลการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น การวัดตามสภาพจริง การใช้แบบวัด แบบทดสอบ ฯลฯ
๒) การมีส่วนร่วมในการเรียนรู้และการฝึกปฏิบัติของนิสิต
๓) การนำเสนอรายงานผลการศึกษากรณีศึกษา สอบกลางภาค สอบปลายภาคด้วยข้อสอบ
๔. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ
๔.๑ ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบที่ต้องพัฒนา
๑) พัฒนาทักษะในการสร้างสัมพันธภาพระหว่างผู้เรียนกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างเป็นกัลยาณมิตร
๒) มีความเป็นผู้นำและผู้ติดตามในการทำงานเป็นทีมรวมทั้งมีส่วนช่วยและเอื้อต่อการแก้ปัญหาในกลุ่มได้อย่างสร้างสรรค์
๔.๒ วิธีการสอน
๑) ฝึกปฏิบัติให้ทำงานกับผู้อื่น
๒) มอบหมายงานที่เกี่ยวข้องและให้รายงานความก้าวหน้าเป็นระยะๆ
๓) ให้เรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรที่เกี่ยวข้อง
๔) ฝึกการสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงานในองค์กรและกับบุคคลทั่วไป
๕) ฝึกการมีภาวะผู้นำ
๔.๓ วิธีการประเมิน
๑) ประเมินจากพฤติกรรมและการแสดงออกของนิสิตขณะเรียนและปฏิบัติงานกลุ่ม
๒) สังเกตจากพฤติกรรมที่แสดงออกในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
๓) การเสนอผลงานจากการได้ฝึกปฏิบัติตามสภาพจริง
๕. ทักษะการวิเคราะห์ตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
๕.๑ ทักษะการวิเคราะห์ตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ต้องพัฒนา
๑) มีทักษะในการสื่อสารทั้งการพูด การฟัง การอ่าน การแปล และการเขียน โดยการทำรายงานและนำเสนอในชั้นเรียน
๕.๒ วิธีการสอน
๑) จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่บูรณาการกับรายวิชาต่าง ๆ
๒) ให้นิสิตวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ทั้งที่จำลอง และสถานการณ์เสมือนจริง
๓) ใช้คอมพิวเตอร์และรูปแบบการจัดการเรียนการสอนออนไลน์
๕.๓ วิธีการประเมิน
๑) ประเมินจากเทคนิคการนำเสนอโดยใช้ทฤษฎี การเลือกใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีสารสนเทศหรือคณิตศาสตร์และสถิติที่เกี่ยวข้อง
๒) ประเมินจากความสามารถในการอธิบายถึงเหตุผล
๓) ผลรายงานจากกรณีศึกษาต่าง ๆที่มีการนำเสนอต่อชั้นเรียน
๔) ประเมินจากการเข้าเรียนจากสื่อการเรียนการสอนออนไลน์
๖. ทักษะการจัดการเรียนรู้
๖.๑ ผลการเรียนรู้ด้านทักษะการจัดการเรียนรู้
วิชาชีพครูเป็นวิชาที่ต้องเกี่ยวข้องกับการจัดประสบการณ์ต่าง ๆ ให้บุคคลเกิดการเรียนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของผู้ประกอบวิชาชีพครูนั้นต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ดังนั้นนิสิตวิชาชีพครูสาขาวิชาสังคมศึกษาต้องมีความสามารถดังต่อไปนี้
๑) สามารถบูรณาการหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาหลักสูตร การวางแผนการเรียนรู้ การบริหารจัดการชั้นเรียน การวัดผล ประเมินผล การวิจัยในชั้นเรียน เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความสามารถอย่างเต็มศักยภาพ และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่สังคมต้องการ(ข้อ ๒)
๖.๒ กลยุทธ์การสอนที่ใช้ในการพัฒนาทักษะด้านการจัดการเรียนรู้
อาจารย์ผู้สอนควรใช้แนวคิดในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญโดยยึดกระบวนการดังนี้
๑) การเรียนรู้โดยใช้หลักไตรสิกขา (Trisikkha Learning)
๒) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning)
๓) การเรียนรู้โดยผ่านประสบการณ์ตรงหรือโครงงาน (Project-based Learning)
๔) การเรียนรู้จากตัวแบบ (Role Model)
๕) การเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน (Research-based Learning)
๖) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Action-based Learning)
๗) การเรียนรู้ตามสภาพจริง (Authentic Learning)
๖.๓ กลยุทธ์การประเมินผลการเรียนรู้ด้านทักษะการจัดการเรียนรู้
การวัดผลประเมินผลต้องใช้วิธีการที่หลากหลาย และประเมินผลให้ได้ตรงกับสภาพความเป็นจริง เช่น การทดสอบ การสังเกต การสัมภาษณ์ การตรวจผลงาน / โครงงาน / ชิ้นงาน / แฟ้มสะสมงาน และบันทึกการเรียนรู้ (Learning Log)
หมวดที่ ๕ แผนการสอนและการประเมินผล
๑. แผนการสอน
|
สัปดาห์ที่ |
หัวข้อ/รายละเอียด |
จำนวน* (ชั่วโมง) |
กิจกรรมการเรียนการสอนและสื่อที่ใช้ |
ผู้สอน |
|
๑ |
แนะนำรายวิชา กิจกรรมการเรียนการสอน วิธีการวัดและประเมินผล |
๓ |
บรรยาย ใบงาน นำขู่บทเรียน
|
พระราชปริยัติสุนทร/ดร.ธนพร กล้าจริง |
|
๒-๓ |
บทที่ ๑ ความหมาย ความสำคัญของการปกครองท้องถิ่น - ความหมายของการปกครองท้องถิ่น -ความสำคัญของการปกครองท้องถิ่น -วัตถุประสงค์ของการปกครองส่วนท้องถิ่น -ความสำคัญของการปกครองส่วนท้องถิ่น -องค์ประกอบการปกครองส่วนท้องถิ่น |
๖ |
- บรรยาย -เอกสารประกอบการสอน - PowerPoint |
พระราชปริยัติสุนทร/ดร.ธนพร กล้าจริง |
|
๔-๕ |
บทที่ ๒ การกระจายอำนาจการปกครอง - หลักการจัดระเบียบการปกครอง -การกระจายอำนาจ -การปกครองท้องถิ่นของไทย - เหตุการณ์ปัจจุบันและปัญหาการปกครองของประเทศไทย |
๖ |
- บรรยาย -เอกสารประกอบการสอน - PowerPoint -ใบงาน |
พระราชปริยัติสุนทร/ดร.ธนพร กล้าจริง |
|
๖-๗ |
บทที่ ๓ โครงสร้างและรูปแบบของการปกครองส่วนท้องถิ่น -โครงสร้างการปกครองส่วนท้องถิ่น -บทบาทหน้าที่ของการปกครองส่วนท้องถิ่น -รูปแบบการปกครองท้องถิ่น -รูปแบบและความสัมพันธ์ของการจัดระเบียบการปกครอง -รูปแบบของหน่วยงานปกครองท้องถิ่น |
๖ |
- บรรยาย -เอกสารประกอบการสอน - PowerPoint -ค้นคว้าข้อมูลและนำเสนอรายงานหน้าชั้น |
พระราชปริยัติสุนทร/ดร.ธนพร กล้าจริง |
|
๘ |
บทที่ ๔ รัฐบาล ระบบการบริหารของหน่วยงาน -รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกับการปกครองส่วนท้องถิ่น -อำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด -การกระจายภารกิจหน้าที่ไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยุคใหม่ -หลักสากลในการจัดบริการสาธารณะ |
๓ |
- บรรยาย -เอกสารประกอบการสอน - PowerPoint -ค้นคว้าข้อมูลและนำเสนอรายงานกลุ่ม |
พระราชปริยัติสุนทร/ดร.ธนพร กล้าจริง |
|
๙ |
บทที่ ๕ การปกครองส่วนท้องถิ่นในด้านต่างๆ -ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับองค์กรปกครองท้องถิ่นไทย -องค์กรปกครองส่วนม้องถิ่น -กลไกการพัฒนาท้องถิ่นของประชาชน -การพัฒนาการสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม กับองค์กรปกครองท้องถิ่นไทย |
๓ |
- บรรยาย -เอกสารประกอบการสอน - PowerPoint -ค้นคว้าข้อมูลและนำเสนอรายงานกลุ่ม |
พระราชปริยัติสุนทร/ดร.ธนพร กล้าจริง |
|
๑๐-๑๑ |
บทที่ ๖ การถ่ายโอนการศึกษากับการปกครองส่วนท้องถิ่น -การถ่ายโอนภารกิจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น -ระยะเวลาการถ่ายโอนการศึกษา -ลักษณะภารกิจที่ถ่ายโอนการศึกษา -ภารกิจและองค์ประกอบที่ต้องถ่ายโอนไปพร้อมกัน |
๖ |
- บรรยาย -เอกสารประกอบการสอน - PowerPoint -ค้นคว้าข้อมูลและนำเสนอรายงานกลุ่ม |
พระราชปริยัติสุนทร/ดร.ธนพร กล้าจริง |
|
๑๒-๑๓ |
บทที่ ๗ ปัญหาและอุปสรรคในการปกครองส่วนท้องถิ่น --ปัญหาอุปสรรคในการถ่ายโอนภารกิจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น |
๖ |
- บรรยาย -เอกสารประกอบการสอน - PowerPoint -ค้นคว้าข้อมูลและนำเสนอรายงานกลุ่ม |
พระราชปริยัติสุนทร/ดร.ธนพร กล้าจริง |
|
๑๔-๑๕ |
บทที่ ๘ การแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการปกครองส่วนท้องถิ่น สรุปเนื้อหา |
๖ |
- บรรยาย -เอกสารประกอบการสอน - PowerPoint -ค้นคว้าข้อมูลและนำเสนอรายงานกลุ่ม |
พระราชปริยัติสุนทร/ดร.ธนพร กล้าจริง |
|
๑๖ |
สอบปลางภาค |
๓ |
|
คณะกรรมการ |
๒. แผนการประเมินผลการเรียนรู้
|
กิจกรรมที่ |
ผลการเรียนรู้* |
กิจกรรมการประเมิน |
กำหนดการประเมิน (สัปดาห์ที่) |
สัดส่วนของการประเมินผล |
|
๑ |
ความรู้และทักษะการ วิเคราะห์ การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ |
นำเสนอรายงาน |
๗/๑๕ |
๓๐ |
|
๒ |
ความรู้ |
การสอบกลางภาค |
๓-๘ |
๒๐ |
|
๓ |
ความรู้ |
การสอบปลายภาค |
๑๖ |
๓๐ |
|
๔ |
ความรับผิดชอบ |
การเข้าชั้นเรียน |
ทุกสัปดาห์ |
๑๐ |
|
๕ |
ทักษะความสัมพันธ์ระหว่าง บุคคลและความรับผิดชอบ |
การสังเกต/การทำรายงานกลุ่ม |
ทุกสัปดาห์ |
๑๐ |
|
* ระบุผลการเรียนรู้หัวข้อย่อยตามที่ปรากฏในแผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบของรายวิชาของรายละเอียดของหลักสูตร (แบบ มคอ. ๒) |
||||
หมวดที่ ๖ ทรัพยากรประกอบการเรียน
๑. ตำราและเอกสารหลัก
๑) อรพินท์ ปานนาค,ผศ. และคณะ. อารยธรรมตะวันออก. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๒๙.
๒) มาตยา อิงคนารถ,ผศ. และคณะ. ประวัติศาสตร์ไทย. กรุงเทพฯ : เอ.เอส.พริ้นติ้งเฮ้าส์, ๒๕๒๙.
๓) ทองหล่อ วงค์ธรรม,ดร. ประวัติศาสตร์เอเชียอาคเนย์. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์, ๒๕๒๔.
๔) ชื่นจิตต์ อำไพวรรณ-ภรณี กาญจนนัษฐิติ. ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๓๐.
๒. เอกสารและข้อมูลสำคัญ
ภาษาไทย
๑) พรภิรมณ์ เชียงคุณ,รศ. ประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ : เอ.เอส,พริ้นติ้งเฮ้าส์, ๒๕๓๕.
๒) ศิวพร ชัยประสิทธิกุล,ผศ. ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยสังเขป. กรุงเทพฯ :
บริษัทประชาชนจำกัด. ๒๕๓๐.
๓) วรทัศน์ วัชรวสี. ประชาชาติอาเชียน. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, ๒๕๒๓.
๔) ธิดา สาระยา. ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ, ๒๕๓๙.
ภาษาอังกฤษ
๑) D.G.E. Hill. A History of South-East Asia. Macmilan Press Ltd. Printed in china, ๑๙๙๓.
๓. เอกสารและข้อมูลแนะนำ
๑) สำนักงานคณะกรรมการศึกษาแห่งชาติ. แนวทางการใช้เทคโนโลยีการศึกษาตาม พรบ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒. กรุงเทพมหานคร : พริกหวาน กราฟิก. ๒๕๔๒.
หมวดที่ ๗ การประเมินและปรับปรุงการดำเนินการของรายวิชา
๑. กลยุทธ์การประเมินประสิทธิผลของรายวิชาโดยนิสิต
๑.๑ ประเมินผลการสอนโดยใช้ระบบออนไลน์
๑.๒ สอบถามความคิดเห็นจากนิสิตในสัปดาห์สุดท้าย
๑.๓ ให้นิสิตเขียนแสดงความคิดเห็นการสอนในสัปดาห์สุดท้าย
๒. กลยุทธ์การประเมินการสอน
จัดประชุมระดมความคิดเห็นจากคณาจารย์ผู้สอนปลายภาค
๓. การปรับปรุงการสอน
๓.๑ นำผลการประเมินมาใช้ในการปรับปรุงการสอน
๓.๒ ค้นคว้าข้อมูลความรู้ใหม่ๆนำมาใช้ในการสอน
๓.๓ กลุ่มคณาจารย์จัดอภิปราย/สัมมนาเพื่อพัฒนารายวิชาให้มีสาระวิชาและการสอนให้เหมาะสมและน่าสนใจ
๔. การทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์รายวิชาของนิสิต
๔.๑ ให้นิสิตได้มีโอกาสตรวจสอบคะแนนและเกรดก่อนส่งเกรดให้สำนักทะเบียนและประมวลผล
๔.๒ ก่อนการสอบกลางภาคและปลายภาค จัดประชุมคณาจารย์เพื่อออกข้อสอบร่วมกับการพัฒนาข้อสอบเพื่อให้ได้มาตรฐาน
๕. การดำเนินการทบทวนและการวางแผนปรับปรุงประสิทธิผลของรายวิชา
นำผลที่ได้จากแบบการประเมิน และจากแบบสอบถามความคิดเห็น คะแนนสอบของนิสิต ผลการวิจัยในชั้น นำมาสรุปผลและพัฒนารายวิชาก่อนการสอนในภาคการศึกษาหน้า
- บทที่*1*ศึกษาความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการเมืองและการปกครอง
- บทที่*2*พัฒนาการการเมืองการปกครอง
- บทที่*3*สถาบันทางการเมือง-
- บทที่*4*กระบวนการทางการเมืองและการปกครอง
- บทที่*5*การจัดระเบียบการปกครอง
- บทที่*6*ปัญหาและอุปสรรคทางการเมือง
- บทที่*7*และแนวคิดพระพุทธศาสนากับการเมืองการปกครอง
คำอธิบายวิชา
ศึกษาความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการเมืองและการปกครอง พัฒนาการการเมืองการปกครอง สถาบันทางการเมือง กระบวนการทางการเมืองและการปกครอง การจัดระเบียบการปกครอง ปัญหาและอุปสรรคทางการเมือง และแนวคิดพระพุทธศาสนากับการเมืองการปกครอง
หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๗
๔๐๒ ๒๐๖ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources Administration ) ๓ (๐-๙-๐)
บทที่*1*การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์
-
- บทที่*2*พัฒนาทรัพยากรมนุษย์
บทที่*3*การบริหารทรัพยากรมนุษย์เชิงกลยุทธ์ - บทที่*4*การบริหารและประเมินผลการปฏิบัติงาน
บทที่*5*การบริหารสวัสดิการ-และพนักงานสัมพันธ์ - บทที่*6*กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารทุนมนุษย์ภาครัฐ
บทที่*7*การจัดการความขัดแย้ง - บทที่*8*การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์แนวพุทธ
-
นิสิตชั้นปีที่ 2/ภาคการศึกษาที่*2*ปีการศึกษา*2568-* หลักสูตรรัฐศษสนศาสตรบัณฑิต/สาชาวิชารัฐศษสนศาสตร์
- บทที่*2*พัฒนาทรัพยากรมนุษย์
-
- รหัสวิชา ๔๐๒-๔๔๙ ไทยศึกษา ๓(๓-๐-๖)
(Thai Studies)
- หลักสูตรปรับปรุงใหม่ ๒๕๖๗
- บทที่-1-ศึกษาภาษาไทยผ่านประวัติศาสตร์ไทย
- บทที่-2-วัฒนธรรมไทยสังคมไทย
- บทที่-3-เศรษฐกิจไทยการเมืองไทย
- บทที่-4-ภูมิปัญญาท้องถิ่นภูมิศาสตร์ไทย
- บทที่-5-การศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง
- บทที่-6-สิทธิและความเสมอภาควิถีชีวิตสังคมไทย
- รหัสวิชา ๔๐๒-๔๔๙ ไทยศึกษา ๓(๓-๐-๖)
- หลักสูตรรัฐศษสนศาสตรบัณฑิต/สาชาวิชารัฐศษสนศาสตร์
- รหัสวิชา๔๐๒ ๒๐๖ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (Human Resources Administration )
- นิสิตชั้นปีที่ 2/ภาคการศึกษาที่*2*ปีการศึกษา*2568-*
- บทที่*1*การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์
- บทที่*2*พัฒนาทรัพยากรมนุษย์
บทที่*3*การบริหารทรัพยากรมนุษย์เชิงกลยุทธ์ - บทที่*4*การบริหารและประเมินผลการปฏิบัติงาน
บทที่*5*การบริหารสวัสดิการ-และพนักงานสัมพันธ์ - บทที่*6*กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารทุนมนุษย์ภาครัฐ
บทที่*7*การจัดการความขัดแย้ง - บทที่*8*การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์แนวพุทธ
๑. จุดมุ่งหมายของรายวิชา
เพื่อให้นิสิตมีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานสังคมการเมืองไทย กระแสโลกาภิวัตน์ว่าด้วยรัฐประชาชาติและวิกฤติสังคมการเมือง กลุ่มทุนพรรคการเมือง ระบอบศูนย์รวมอำนาจการเมือง การปกครองเทคโนโลยีสารสนเทศกับความสมบูรณ์ของข้อมูลข่าวสาร ทางออกของความขัดแย้งทางเศรษฐกิจการเมืองและสังคม
๒. วัตถุประสงค์ในการพัฒนา/ปรับปรุงรายวิชา
เพื่อให้นิสิตมีความรู้พื้นฐาน เป็นการเตรียมความพร้อมด้านปัญญาในการนำความรู้ ความเข้าใจ ในสังคมการเมืองไทย กระแสโลกาภิวัตน์ว่าด้วยรัฐประชาชาติและวิกฤติสังคมการเมือง กลุ่มทุนพรรคการเมือง ระบอบศูนย์รวมอำนาจการเมือง เพื่อเป็นพื้นฐานการเรียนในวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ควรมีการเปลี่ยนแปลงตัวอย่างอ้างอิง ให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย
๑. คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาพื้นฐานสังคมการเมืองไทย กระแสโลกาภิวัตน์ว่าด้วยรัฐประชาชาติและวิกฤติสังคมการเมือง กลุ่มทุนพรรคการเมือง ระบอบศูนย์รวมอำนาจการเมือง การปกครองเทคโนโลยีสารสนเทศกับความสมบูรณ์ของข้อมูลข่าวสาร ทางออกของความขัดแย้งทางเศรษฐกิจการเมืองและสังคม
- บทที่*1*ศึกษาความหมาย แนวคิด ทฤษฎี
- บทที่2*นโยบายเกี่ยวกับงบประมาณและการคลังสาธารณะ
บทที่*3*บทบาทและอิทธิพลของการเมืองที่มีต่องบประมาณ
บทที่4*ความหมายของการคลังสาธารณะของประเทศไทย: อดีต ปัจจุบัน และอนาคต
บทที่5*บทบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสรุปการใช้จ่ายงบประมาณ
บทที่ 6 นี้การบริหารงบประมาณและการคลังสาธารณะของประเทศไทย
บทที่*6*เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการวิเคราะห์งบประมาณ
บทที่ 6*กระบวนการงบประมาณเทคนิคและวิธีการวิเคราะห์งบประมาณ
บทที่*7*โครงสร้างการบริหารงบประมาณและการคลังสาธารณะของประเทศ
1.ศึกษาเทศกาลและที่มาของพิธีกรรมที่สำคัญ
ทางพระพุทธศาสนา
2.ความหมาย คุณค่าของเทศกาล
3.และพิธีกรรมตามภูมิภาคนั้นๆ ให้สามารถปฏิบัติได้ถูกต้อง
4.โดยเน้นให้มีการฝึกปฏิบัติ
วัตถุประสงค์ทั่วไป
1. เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายขององค์การ โครงสร้างการบริหารในองค์การ ประเภทองค์การ คุณลักษณะขององค์การ การจัดโครงสร้างองค์การ
2. เพี่อให้มีความตระหนักถึงความสาคัญขององค์การและการจัดองค์การ
วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรม
หลังจากท่านได้ศึกษาเนื้อหาตามบทเรียนอย่างถูกต้องและสมบูรณ์ท่านจะสามารถ
1. อธิบายความหมายขององค์การได้ถูกต้อง
2. อธิบายโครงสร้างการบริหารในองค์การได้ได้ถูกต้อง
3. บอกคุณลักษณะขององค์การได้ถูกต้อง
4. บอกคุณลักษณะองค์การได้ถูกต้อง
5. อธิบายการจัดโครงสร้างองค์การได้ถูกต้อง
สมรรถนะประจาหน่วย
1. แสดงความรู้เกี่ยวกับองค์การ
เนื่องจากคำที่คุณให้มาเป็นภาษาไทยและมีคำที่ดูเหมือนพิมพ์ผิดอยู่บ้าง ผมจึงขออนุมานว่าคุณต้องการข้อมูลเกี่ยวกับ "องค์การและการจัดองค์การ" โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับ "วัตถุประสงค์และความสัมพันธ์"
วัตถุประสงค์ของการจัดองค์การ (Organization Objectives)
การจัดองค์การมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทำให้กิจกรรมต่างๆ บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้:
•
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายองค์กร: องค์การถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ การจัดองค์การที่ดีจะช่วยกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบและขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน ทำให้ทุกคนในองค์กรทราบว่าต้องทำอะไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน
•
เพื่อใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ: การจัดองค์การช่วยแบ่งงานและจัดสรรทรัพยากร (เช่น คน เงิน วัสดุ) ให้เหมาะสมกับแต่ละหน้าที่ ทำให้ไม่มีการทำงานซ้ำซ้อนหรือใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง
•
เพื่อสร้างความชัดเจนในบทบาทหน้าที่: การจัดองค์การจะกำหนดสายการบังคับบัญชา (chain of command) และขอบเขตอำนาจหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง ทำให้พนักงานแต่ละคนทราบว่าต้องรายงานใครและใครเป็นผู้รับผิดชอบงานส่วนไหน
•
เพื่อสร้างความร่วมมือและการประสานงาน: โครงสร้างองค์กรที่ดีจะส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างแผนกต่างๆ ทำให้การสื่อสารและการประสานงานเป็นไปอย่างราบรื่น
•
เพื่อส่งเสริมการเติบโตและพัฒนา: การจัดองค์การที่ยืดหยุ่นและปรับตัวได้ง่ายจะช่วยให้องค์กรสามารถขยายตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ และยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรให้มีความก้าวหน้าในสายอาชีพ
ความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุประสงค์และการจัดองค์การ
วัตถุประสงค์และการจัดองค์การมีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่นในลักษณะที่แยกจากกันไม่ได้:
•
วัตถุประสงค์เป็นตัวกำหนดการจัดองค์การ: ก่อนที่จะจัดโครงสร้างองค์กรได้ ต้องทราบก่อนว่าวัตถุประสงค์ขององค์กรคืออะไร เพราะการจัดองค์การต้องออกแบบมาเพื่อสนับสนุนและทำให้วัตถุประสงค์นั้นสำเร็จ เช่น หากวัตถุประสงค์คือการสร้างนวัตกรรม องค์กรก็อาจต้องมีโครงสร้างแบบทีมข้ามสายงาน (cross-functional team) เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
•
การจัดองค์การที่ดีช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์: หากการจัดองค์การไม่เหมาะสม เช่น มีขั้นตอนซับซ้อนเกินไปหรือมีสายการบังคับบัญชายาวเกินไป ก็อาจเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กรได้
กล่าวคือ วัตถุประสงค์เปรียบเสมือน "จุดหมายปลายทาง" ส่วน การจัดองค์การเปรียบเสมือน "แผนที่และเส้นทาง" ที่จะนำพาองค์กรไปสู่จุดหมายนั้นได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
2. แสดงความรู้เกี่ยวกับการจัดองค์การ
ศึกษาแนวคิดทางการเมือง การบริหาร และการปกครองของพระพุทธศาสนาจากพระไตรปิฎก เอกสาร ตำราทางพระพุทธศาสนาและจากผลงานของนักวิชาการสมัยใหม่