Enrolment options

ความรู้ทั่วไปทางรัฐศาสตร์
วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร

รายละเอียดของรายวิชา

ชื่อสถาบันอุดมศึกษา          

          มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 

วิทยาลัย/คณะ/ภาควิชา

            วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร/คณะครุศาสตร์/ภาควิชาหลักสูตรและการสอน

ที่ ๑  ข้อมูลทั่วไป

.  รหัสและชื่อรายวิชา

          ๒๐๓  ๓๐๘  ความรู้ทั่วไปทางรัฐศาสตร์

                        (General Knowledge in Political Sciences)

๒.  จำนวนหน่วยกิต

             ๓ หน่วยกิต (๓-๐-๖)

๓.  หลักสูตรและประเภทของรายวิชา

          ๓.๑ หลักสูตร

           หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต

          ๓.๒ ประเภทวิชา

           วิชาบังคับ หมวดวิชาชีพครู

๔.  อาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชา

                 อาจารย์ชัยวิวัฒน  ลาไป

๕.  ภาคการศึกษา/ชั้นปีที่เรียน

              ภาคการศึกษาที่ ๒ / ชั้นปีที่ ๓

๖.  รายวิชาที่ต้องเรียนมาก่อน (ถ้ามี)

               ไม่มี

๗.  วิชาที่ต้องเรียนพร้อมกัน (co-requisites) (ถ้ามี)

               ไม่มี

๘.  สถานที่เรียน

         วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร  มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

๙.  วันที่จัดทำรายละเอียดของรายวิชา หรือวันที่มีการปรับปรุงครั้งล่าสุด

        ๓๐  กันยายน  ๒๕๖

 



 

หมวดที่ ๒ จุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์

๑. จุดมุ่งหมายของรายวิชา

          ๑) เพื่อให้นิสิตมีความรู้ความเข้าใจความหมาย ขอบข่ายและปรัชญาของรัฐศาสตร์   

๒) เพื่อให้นิสิตสามารถใช้ความรู้ทางด้านรัฐศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ

            ๓) เพื่อให้นิสิตสามารถนำความรู้ทางด้านรัฐศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน

๒. วัตถุประสงค์ในการพัฒนา/ปรับปรุงรายวิชา

เพื่อให้นิสิตมีความรู้พื้นฐาน เป็นการเตรียมความพร้อมด้านปัญญาในการนำความรู้ ความเข้าใจ ในด้านรัฐศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานอื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาสังคม เพื่อเป็นพื้นฐานการเรียนในวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ควรมีการเปลี่ยนแปลงตัวอย่างอ้างอิง ให้สอดคล้องกับแนวโน้มด้านการเมือง การปกครองและการบริหารทั่วไปที่ได้มีความก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย

 

หมวดที่ ๓ ลักษณะและการดำเนินการ

๑.คำอธิบายรายวิชา

          ความหมาย ขอบข่ายและปรัชญาของรัฐศาสตร์ แนวคิดทฤษฎีความขัดแย้งและอุดมการณ์ทางการเมือง ระบบและลัทธิทางการเมือง อำนาจทางการเมือง รูปแบบการปกครอง การเลือกตั้ง สิทธิเสรีภาพและการมีส่วนร่วมของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

๒.จำนวนชั่วโมงที่ใช้ต่อภาคการศึกษา

 

บรรยาย

สอนเสริม

การฝึกปฏิบัติ/งานภาคสนาม/การฝึกงาน

การศึกษาด้วยตนเอง

บรรยาย  ๔๕ ชั่วโมงต่อภาคการศึกษา

สอนเสริมตามความต้องการของนิสิตเฉพาะราย

ไม่มีการฝึกปฏิบัติงานภาคสนาม

การศึกษาด้วยตนเอง ๖ ชั่วโมงต่อสัปดาห์

๓.จำนวนชั่วโมงต่อสัปดาห์ที่อาจารย์ให้คำปรึกษาและแนะนำทางวิชาการแก่นิสิตเป็นรายบุคคล

- อาจารย์ประจำรายวิชา ประกาศเวลาให้คำปรึกษาผ่านเว็บไซต์คณะ

- อาจารย์จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือ รายกลุ่มตามความต้องการ ๑ ชั่วโมงต่อสัปดาห์  (เฉพาะรายที่ต้องการ)

 

หมวดที่ ๔ การพัฒนาการเรียนรู้ของนิสิต

๑.คุณธรรม จริยธรรม

    ๑.๑ คุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา

         พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรมเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างราบรื่น และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยผู้สอนต้องพยายามสอดแทรกเรื่องที่เกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรม เพื่อให้นิสิตสามารถพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมไปพร้อมกับการศึกษาความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์ โดยมีคุณธรรมจริยธรรมตามคุณสมบัติหลักสูตร ดังนี้

          ๑) ตระหนักในคุณค่าและคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต

          ๒) มีวินัย ตรงต่อเวลา และความรับผิดชอบต่อตนเอง วิชาชีพและสังคม

            ๓) มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม สามารถทำงานเป็นทีมและสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งและลำดับความสำคัญ

         ๔) เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

๑.๒ วิธีการสอน

         กำหนดให้มีวัฒนธรรมองค์กร เพื่อเป็นการปลูกฝังให้นิสิตมีระเบียบวินัย โดยเน้นการเข้าชั้นเรียนให้ตรงเวลาตลอดจนการแต่งกายที่เป็นไปตามระเบียบของมหาวิทยาลัย นิสิตต้องมีความรับผิดชอบโดยในการทำงานกลุ่มนั้นต้องฝึกให้รู้หน้าที่ของการเป็นผู้นำกลุ่มและการเป็นสมาชิกกลุ่ม มีความซื่อสัตย์โดยต้องไม่กระทำการทุจริตในการสอบหรือลอกการบ้านของผู้อื่น เป็นต้น นอกจากนี้อาจารย์ผู้สอนทุกคนต้องสอดแทรกเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในการสอนทุกรายวิชา รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ยกย่องบุคคลที่   ทำดี เสียสละ และทำประโยชน์แก่ส่วนรวม

 ๑.๓ วิธีการประเมินผล

         ๑)  ประเมินจากการตรงเวลาของนิสิตในการเข้าชั้นเรียน การส่งงานตามกำหนดระยะเวลาที่มอบหมาย และการร่วมกิจกรรม

         ๒)  ประเมินจากการมีวินัยและพร้อมเพรียงของนิสิตในการเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตร     

         ๓)  ประเมินจากปริมาณการกระทำทุจริตในการสอบ

         ๔)  ประเมินจากความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

๒.ความรู้

 ๒.๑ ความรู้ที่ต้องได้รับ

         ๑)  มีองค์ความรู้ในสาขาวิชาชีพครูอย่างกว้างขวางและเป็นระบบสามารถวิเคราะห์ปัญหา

         ๒)ตระหนักรู้หลักการและทฤษฏีในองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพครูและความก้าวหน้าของวิชาชีพครู

         ๓)มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการวิจัยและใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาวิทยาการใหม่ๆทางด้านการเรียนการสอนเพื่อแก้ปัญหาและการต่อยอดองค์ความรู้

๒.๒ วิธีการสอน

          บรรยาย อภิปราย การทำงานกลุ่ม การนำเสนอรายงาน การวิเคราะห์กรณีศึกษา และมอบหมายให้ค้นคว้าหาบทความ ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยนำมาสรุปและนำเสนอ การศึกษาโดยใช้ปัญหา และโครงงาน Problem base learning และ Student Center เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง

๒.๓ วิธีการประเมินผล

         ประเมินจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการปฏิบัติของนิสิตในด้านต่างๆ คือ

                   ๑)  การทดสอบย่อย

                   ๒)  การสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน

                   ๓)  ประเมินจากงานมอบหมาย

                   ๔)  ประเมินจากโครงการที่นำเสนอ

                   ๕)  ประเมินจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ

 

 

๓.ทักษะทางปัญญา

๓.๑ ทักษะทางปัญญาที่ต้องพัฒนา

          ๑)  มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและกระบวนการคิดต่างๆ

          ๒)  สามารถสืบค้น ตีความ และประเมินสารสนเทศเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์

๓.๒ วิธีการสอน

         - การมอบหมายให้นิสิตทำโครงงานพิเศษ และนำเสนอผลการศึกษา

         - อภิปรายกลุ่ม

         - วิเคราะห์กรณีศึกษาทางด้านรัฐศาสตร์

         - การสะท้อนแนวคิดจากพฤติกรรม

๓.๓ วิธีการประเมินผล

          ๑) การนำเสนอผลงานและประเมินผลการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น การวัดตามสภาพจริง การใช้แบบวัด แบบทดสอบ ฯลฯ

          ๒) การมีส่วนร่วมในการเรียนรู้และการฝึกปฏิบัติของนิสิต  

          ๓) การนำเสนอรายงานผลการศึกษากรณีศึกษา สอบกลางภาค สอบปลายภาคด้วยข้อสอบ

๔.ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ

๔.๑ ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบที่ต้องพัฒนา

          ๑)  มีความเป็นผู้นำและผู้ติดตามในการทำงานเป็นทีมรวมทั้งมีส่วนช่วยและเอื้อต่อการแก้ปัญหาในกลุ่มได้อย่างสร้างสรรค์ (ข้อ๒)

          ๒)  มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างเหมาะสมบนพื้นฐานของตนเองและของกลุ่ม (ข้อ๓)

          ๓)  รับผิดชอบในการเรียนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนาตนเองและวิชาชีพครู  (ข้อ๔)    

๔.๒ วิธีการสอน

          ๑)  ฝึกปฏิบัติให้ทำงานกับผู้อื่น

          ๒)  มอบหมายงานที่เกี่ยวข้องและให้รายงานความก้าวหน้าเป็นระยะๆ

          ๓)  ให้เรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรที่เกี่ยวข้อง  

          ๔)  ฝึกการสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงานในองค์กรและกับบุคคลทั่วไป

          ๕)  ฝึกการมีภาวะผู้นำ

๔.๓ วิธีการประเมินผล

          ๑) ประเมินจากพฤติกรรมและการแสดงออกของนิสิตขณะเรียนและปฏิบัติงานกลุ่ม

          ๒) สังเกตจากพฤติกรรมที่แสดงออกในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ

          ๓) การเสนอผลงานจากการได้ฝึกปฏิบัติตามสภาพจริง

๕.ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

    ๕.๑ ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ต้องพัฒนา      

           ๑)  มีทักษะในการสืบค้นข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ข้อ ๒)

    ๕.๒ วิธีการสอน      

           ๑) จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่บูรณาการกับรายวิชาต่าง ๆ

           ๒) ให้นิสิตวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ทั้งที่จำลอง และสถานการณ์เสมือนจริง

           ๓)  ใช้คอมพิวเตอร์และรูปแบบการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ 

   ๕.๓ วิธีการประเมินผล

           ๑)  ประเมินจากเทคนิคการนำเสนอโดยใช้ทฤษฎี การเลือกใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีสารสนเทศหรือคณิตศาสตร์และสถิติที่เกี่ยวข้อง

            ๒)  ประเมินจากความสามารถในการอธิบายถึงเหตุผล

            ๓)  ผลรายงานจากกรณีศึกษาต่าง ๆที่มีการนำเสนอต่อชั้นเรียน

            ๔)  ประเมินจากการเข้าเรียนจากสื่อการเรียนการสอนออนไลน์

 ๖. ทักษะการจัดการเรียนรู้

          ๖.๑     ผลการเรียนรู้ด้านทักษะการจัดการเรียนรู้

                   วิชาชีพครูเป็นวิชาที่ต้องเกี่ยวข้องกับการจัดประสบการณ์ต่าง ๆ ให้บุคคลเกิดการเรียนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ความสามารถในการจัดการเรียนรู้ของผู้ประกอบวิชาชีพครูนั้นต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ดังนั้นนิสิตวิชาชีพครูสาขาวิชาสังคมศึกษาต้องมีความสามารถดังต่อไปนี้

                    ๑) มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การจัดการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล การวิจัยในชั้นเรียนการบริหารจัดการชั้นเรียน การบันทึกและการรายงานผลการเรียนรู้

                    ๒) ตระหนักถึงความสำคัญของหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การจัดการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล การวิจัยในชั้นเรียน การบริหารจัดการชั้นเรียนการบันทึกและการรายงานผลการเรียนรู้(๔)

 

         ๖.๒ วิธีการสอน     

          อาจารย์ผู้สอนควรใช้แนวคิดในการจัดการเรียนรู้ที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญโดยยึดกระบวนการดังนี้

                    ๑) การเรียนรู้โดยใช้หลักไตรสิกขา (Trisikkha Learning)

                   ๒) การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning)

                   ๓) การเรียนรู้โดยผ่านประสบการณ์ตรงหรือโครงงาน (Project-based Learning)

                   ๔) การเรียนรู้จากตัวแบบ (Role Model)

                   ๕) การเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน (Research-based Learning)

                   ๖) การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน (Action-based Learning)

                   ๗) การเรียนรู้ตามสภาพจริง (Authentic Learning)

๖.๓ วิธีการประเมินผล

          การวัดผลประเมินผลต้องใช้วิธีการที่หลากหลาย และประเมินผลให้ได้ตรงกับสภาพความเป็นจริง เช่น การทดสอบ การสังเกต การสัมภาษณ์ การตรวจผลงาน / โครงงาน / ชิ้นงาน / แฟ้มสะสมงาน และบันทึกการเรียนรู้ (Learning Log)

 

 

 

 

หมวดที่ ๕ แผนการสอนและการประเมินผล

๑. แผนการสอน

สัปดาห์ที่

หัวข้อ/รายละเอียด

จำนวนชั่วโมง

กิจกรรมการเรียน การสอน  สื่อที่ใช้ (ถ้ามี)

ผู้สอน

-๒

แนะนำเนื้อหาวิชาและวิธีการศึกษา

บทที่ ความหมาย ขอบข่ายและปรัชญาของรัฐศาสตร์ 

๑. ความหมายของรัฐศาสตร์

๒. ขอบเขตของรัฐศาสตร์

๓. ประวัติความเป็นมาของวิชารัฐศาสตร์

๔. วิธีการศึกษารัฐศาสตร์

๕. ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐศาสตร์กับสาขาวิชาอื่นๆ

บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ มอบหมายงาน

ใบงาน

Present

อาจารย์ชัยวิวัฒน  ลาไป

๓-๔

บทที่ ๒ แนวคิดทฤษฎีความขัดแย้งและอุดมการณ์ทางการเมือง

๑. ทฤษฎีคัดค้านอำนาจอธิปไตย

๓. วิวัฒนาการของรัฐ

๔. รูปแบบการปกครอง

๕. บทบาทหน้าที่ของอุดมการณ์ทางการเมือง

๖. อุดมการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ

๗. อุดมการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน

๘. ประโยชน์ของอุดมการณ์ทางการเมือง

บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ มอบหมายงานประจำบท

Present

อาจารย์ชัยวิวัฒน  ลาไป

๕-๖

บทที่ ๓ ระบบและลัทธิทางการเมือง อำนาจทางการเมือง

๑.ระบบทางการเมืองและลัทธิทางการเมือง

๒.อำนาจทางการเมือง 

๓. รูปแบบของรัฐบาล

๔. องค์ประกอบของรัฐ

๕. บทบาทและหน้าที่ของรัฐ

๖. ความแตกต่างระหว่าง รัฐ

๗. พรรคการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์

บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษา

Present

อาจารย์ชัยวิวัฒน  ลาไป

๗-๘-๙

บทที่ ๔  รูปแบบการปกครอง

๑. รัฐธรรมนูญ

๒. ความหมายของกฎหมาย

๓. ที่มาของกฎหมาย

๔. ลักษณะของกฎหมาย

๕. ประเภทของกฎหมาย

๖. บทบาทของกฎหมายในสังคม

๗. กฎหมายกับศีลธรรม

๘. ประโยชน์ในการศึกษากฎหมาย

๙. สถาบันพระมหากษัตริย์

๑๐. สถาบันนิติบัญญัติ

๑๑. สถาบันบริหาร

๑๒. สถาบันตุลาการ

บรรยาย ยกตัวอย่าง

ประกอบ อภิปราย

กลุ่มจากกรณีศึกษา Present

อาจารย์ชัยวิวัฒน  ลาไป

๑๐-๑๑

บทที่ ๕ การเลือกตั้ง สิทธิเสรีภาพ

๑.โครงสร้างของสถาบันทางการเมือง

๒. แนวคิดเกี่ยวกับที่มาของอำนาจอธิปไตย

๓. ลักษณะของอำนาจอธิปไตย

๔. ประเภทของอำนาจอธิปไตย

๕. การแสดงซึ่งอำนาจอธิปไตยของปวงชน

๖. ขอบเขตของอำนาจอธิปไตย

บรรยาย ยกตัวอย่าง

ประกอบ อภิปราย

กลุ่มจากกรณีศึกษา Present

อาจารย์ชัยวิวัฒน  ลาไป

๑๒-๑๓

บทที่ ๖  การมีส่วนร่วมของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

บรรยาย  ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษา

Present

อาจารย์ชัยวิวัฒน  ลาไป

๑๔-๑๕

บทที่ ๗ ประชาชนกับการเมืองระดับท้องถิ่น

๑. ความหมายของการปกครองส่วนท้องถิ่น

๒. ความสำคัญของการปกครองส่วนท้องถิ่น

๓. วัตถุประสงค์ของการปกครองส่วนท้องถิ่น

๔. องค์ประกอบของการปกครองส่วนท้องถิ่น

๕. แนวคิดและทฤษฎีของการปกครองส่วนท้องถิ่น

๖. รูปแบบของการปกครองส่วนท้องถิ่น

บรรยาย  ยกตัวอย่างประกอบ อภิปรายกลุ่มจากกรณีศึกษา

Present

 

อาจารย์ชัยวิวัฒน  ลาไป

๑๖

สอบปลายภาค

สอบ

คณะกรรมการ


. แผนการประเมินผลการเรียนรู้

กิจกรรมที่

ผลการเรียนรู้

วิธีการประเมิน

สัปดาห์ที่ประเมิน

สัดส่วนของการประเมินผล

 

๑.๑ ตระหนักในคุณค่าและคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต

- พฤติกรรมการเข้าเรียน - ส่งงานที่ได้รับมอบหมายตามขอบเขตที่ให้และตรงเวลา       

ตลอดภาคการศึกษา

๑๐%

๑๐%

๔.๑ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม

- รายงานกลุ่ม

-๑๕

๑๐%

 

๒.๑ มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและทฤษฎีที่สำคัญในเนื้อหาสาขาวิชารัฐศาสตร์

- สอบกลางภาค

         

๒-๘

๑๐%

 

๕.๑ มีทักษะในการใช้ภาษาไทย เพื่อการสื่อสาร

 

- การอภิปราย

๑๓

๒๐%

 

๓.๑ คิดอย่างมีวิจารณญาณและอย่างเป็นระบบ

- สอบปลายภาค

๑๖

๔๐%

 

หมวดที่ ๖ ทรัพยากรประกอบการเรียนการสอน

๑.เอกสารและตำราหลัก

ชัยวิวัฒน  ลาไป.  เอกสารประกอบการสอน ความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์. กรุงเทพฯ: ๒๕๕๘.     

๒.เอกสารและข้อมูลสำคัญ

พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ, ผศ.  ความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลง   

    กรณราชวิทยาลัย. ๒๕๕๖.

๓.เอกสารและข้อมูลแนะนำ

จักษ์ พันธ์ชูเพชร. ดร. รัฐศาสตร์. ปทุมธานี: มายด์ พับลิซซิ่ง, ๒๕๔๘.

จิรโชค วีระสัย, สุรพล ราชภัณฑารักษ์ และสุรพันธ์ ทับสุวรรณ. รัฐศาสตร์ทั่วไป.  พิมพ์ครั้งที่ ๑๓ กรุงเทพฯ :

    มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๔๖.

ฤทธิชัย แกมนาค. ดร. รัฐศาสตร์ตามแนวพุทธศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการ      

    วัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๓๙.

สิทธิพันธ์ พุทธหุน. รศ. แนวการศึกษารัฐศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๔๓.

สุพจน์ บุญวิเศษ.  หลักรัฐศาสตร์. กรุงเทพฯ : เอ็ม.ที.เพรส, ๒๕๔๙.

อานนท์ อาภาภิรม. รัฐศาสตร์เบื้องต้น. กรุงเทพมหานคร: โอเดียนสโตร์, ๒๕๒๘.

 

หมวดที่ ๗ การประเมินและปรับปรุงการดำเนินการของรายวิชา

๑.กลยุทธ์การประเมินประสิทธิผลของรายวิชาโดยนิสิต

    การประเมินประสิทธิผลในรายวิชานี้ ที่จัดทำโดยนิสิต ได้จัดกิจกรรมในการนำแนวคิดและความเห็นจากนิสิตได้ดังนี้

         - การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้สอน

         - การสังเกตการณ์จากพฤติกรรมของผู้สอน

         - แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา

         - ขอเสนอแนะผ่านเว็บบอร์ด ที่อาจารย์ผู้สอนได้จัดทำเป็นช่องทางการสื่อสารกับนิสิต

๒.กลยุทธ์การประเมินการสอน

    ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอน ได้มีกลยุทธ์ ดังนี้

         - การสังเกตการณ์สอนของผู้ร่วมทีมการสอน

         - ผลการสอบ

         - การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้

๓.การปรับปรุงการสอน

    หลังจากผลการประเมินการสอนในข้อ ๒ จึงมีการปรับปรุงการสอน โดยการจัดกิจกรรมในการระดมสมอง และหาข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับปรุงการสอน ดังนี้

         - สัมมนาการจัดการเรียนการสอน

         - การวิจัยในและนอกชั้นเรียน

๔.การทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ของนิสิตในรายวิชา

    ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อ ตามที่คาดหวังจากการเรียนรู้ในวิชา ได้จาก การสอบถามนิสิต หรือการสุ่มตรวจผลงานของนิสิต รวมถึงพิจารณาจากผลการทดสอบย่อย และหลังการออกผลการเรียนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยรวมในวิชาได้ดังนี้

         - การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนิสิตโดยอาจารย์อื่น หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ไม่ใช่อาจารย์ประจำหลักสูตร

         - มีการตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนิสิต โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม

 

 

Guests cannot access this course. Please log in.