ศึกษาแนวคิดและวิธีการต่าง
ๆ ในการศึกษาเกี่ยวกับการเมืองการปกครองเปรียบเทียบ ทั้งนี้ให้ศึกษา
เปรียบเทียบของประเทศต่าง ๆ
โดยเลือกเฉพาะบางประเทศที่สำคัญในกลุ่มประเทศประชาธิปไตย กลุ่มประเทศ
คอมมิวนิสต์และกลุ่มประเทศโลกที่สาม
โดยเน้นศึกษาในรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรมทางการเมือง โครงสร้าง องค์ประกอบและหน้าที่ของระบบการเมืองการปกครองเหล่านั้นเป็นกรณีศึกษา
ศึกษาเชิงพฤติกรรมมนุษย์ในองค์การและการบริหารงาน พฤติกรรมองค์การกับสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ การใช้พลังงานของกลุ่มให้เป็นประโยชน์ต่อองค์การ พื้นฐานพฤติกรรมบุคคลเกี่ยวกับการเรียนรู้ ค่านิยม ทัศนคติ การจูงใจ การสร้างขวัญ กำลังใจและความพึงพอใจในงาน พื้นฐานพฤติกรรมกลุ่ม การสื่อสารและการตัดสินใจของกลุ่ม ภาวะผู้นำ อำนาจและการเมือง ความขัดแย้งและพฤติกรรมระหว่างกลุ่ม
ศึกษาความหมาย แนวคิด ทฤษฎีและขอบข่ายการศึกษารัฐประศาสนศาสตร์ ปทัสถานและวิวัฒนาการของรัฐ
ประศาสนศาสตร์ การบริหารการพัฒนา ปัจจัยแวดล้อมทางรัฐประศาสนศาสตร์ นโยบายและการวางแผนของรัฐ
องค์การและการจัดการภาครัฐแนวใหม่ แนวโน้มรัฐประศาสนศาสตร์ของไทย
นโยบายสาธารณะมีการศึกษากันอย่างจริงจังตั้งแต่ ค.ศ.๑๙๗๐ เป็นต้นมา เนื่องจากเป็นช่วงของพาราไดม์ที่ ๕ ของการศึกษาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ที่นักวิชาการในยุคนั้นให้ความสำคัญกับการมุ่งเน้นการศึกษานโยบายสาธารณะ โดยสืบเนื่องจากการที่ Herbert A. Simon (๑๙๔๗) ที่เสนอให้แบ่งวิชารัฐประศาสนศาสตร์ออกเป็น ๒ แนว คือ “ศาสตร์บริสุทธิ์ของการบริหาร” (A pure science of administration) กับ “การกำหนดนโยบายสาธารณะ” (Public Policy Formulation) หลังจากนั้นเป็นต้นมา การศึกษานโยบายสาธารณะก็มีความเด่นชัด กลายมาเป็นสาระสำคัญของการศึกษาวิชารัฐประศาสนศาสตร์จนถึงปัจจุบัน
ศึกษาทฤษฎี ความเป็นมา และระบบของการเลือกตั้ง พรรคการเมือง กลุ่มอิทธิพล และกลุ่มผลประโยชน์ บทบาทและอิทธิพลของกลุ่มต่างๆ และความสัมพันธ์กับรัฐบาล พฤติกรรมการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง และปัญหาการเลือกตั้ง เน้นกรณีของไทยโดยเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ
ศึกษาทฤษฎีและพฤติกรรมองค์การ โดยเริ่มจากแนวความคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับองค์การสมัยดั้งเดิมถึงสมัยปัจจุบัน ความหมายและองค์ประกอบขององค์การ ตัวแปรในองค์การ วิธีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับองค์การ ปัจจัยพื้นฐานที่กำหนดพฤติกรรมการทางานของมนุษย์ พฤติกรรมในการบริหาร อิทธิพลของโครงสร้างและกระบวนการในองค์การที่มีต่อพฤติกรรมการทางานของมนุษย์
ศึกษาหลักเกณฑ์ ความสัมพันธ์ของคำหรือคำศัพท์ ในประโยคต่าง ๆ โดยใช้หนังสือธัมมปทัฏฐกถา ภาค ๕ (ธรรมบท ภาคที่ ๕)
ศึกษาเกี่ยวกับประวัติ ความเป็นมา ความสำคัญ ความหมาย โครงสร้างของพระสุตตันตปิฎก สามารถวิเคราะห์พระสูตรที่สำคัญ คือ พรหมชาลสูตร มหาปรินิพพานสูตร อัคคัญญสูตร รวมทั้งประเด็นที่น่าสนใจ จากนิกายทั้ง ๕ นิกาย คือ ทีฆนิกาย มัชฌิมนิกาย สังยุตตนิกาย อังคุตตรนิกาย และขุททกนิกาย
รัฐศาสตร์จะเรียนเรื่องการเมือง การปกครอง การเข้าสู่อำนาจ การลงจากอำนาจ ส่วนรัฐประศาสนศาสตร์เรียนเรื่องการบริหาร การบริหารภาครัฐทั้งหมด อย่างของประเทศไทยจะเรียนเรื่องการบริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น สาขาเอกย่อยๆ 1.นโยบายสาธารณะ 2. การบริหารทรัพยากรมนุษย์ 3.องค์การและการจัดการ 4.กระบวนการยุติธรรม และยังเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับ Thailand 4.0 ประชาคมอาเซียน ทักษะทางด้านภาษาและเทคโนโลยีทางด้านไอที เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ตลาดแรงงานของบัณฑิตในอนาคต....”
· Right View or Understanding (Sammāditthi)
· Right Thought (Sammāsaṅkappa)
· Right Speech (Sammāvācā)
· Right Action (Sammākammanta)
· Right Livelihood (Sammā-ājîva)
· Right Mindfulness (Sammāsati)
· Right Concentration (Sammāsamādhi)
ศึกษากำเนิด ความเป็นมา และพัฒนาการของคัมภีร์พระไตรปิฎก
การจำแนกโครงสร้างและเนื้อหาสาระพระไตรปิฎก ฯลฯ